ทำความสะอาดที่นอน

ได้เวลาซักที่นอนหรือยังนะ

10 สัญญาณเตือน ถึงเวลาที่ควรลุกขึ้นมาทำความสะอาดที่นอน ซักที่นอน ดูดฝุ่นที่นอนได้แล้ว

ที่นอน เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญภายในบ้าน เพราะมนุษย์แทบจะทุกคนใช้เวลา 1 ใน 3 อยู่กับการนอนหลับพักผ่อน ซึ่งการนอนหลับที่ดีจะส่งผลดีต่อสุขภาพ แต่นอกจากการมีที่นอนที่มีคุณภาพแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การเรียนรู้วิธีทำความสะอาดและการดูแลรักษาที่นอน ไม่ว่าจะเป็น การซักที่นอน ซักท็อปเปอร์ หรือการดูดฝุ่นที่นอน เพื่อทำให้ทุกการนอนเสริมสร้างพลังแห่งชีวิตและพร้อมจะรับทุกสถานการณ์ที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน

สำหรับวิธีการดูดฝุ่นที่นอนและทำความสะอาดที่นอน จะด้วยการซักที่นอนด้วยตัวเอง หรือปัจจุบันมีบริการซักที่นอน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา ซึ่งมีบริการตั้งแต่ซักที่นอน บริการกำจัดไรฝุ่น และดูดฝุ่นที่นอน แต่คำถามที่มักพบอยู่บ่อย ๆ ก็คือ ควรทำความสะอาดที่นอนบ่อยแค่ไหน? และเมื่อไหร่ถึงเวลาที่ควรทำความสะอาดที่นอน? รวมไปถึงวิธีการดูแลและรักษาที่นอนอย่างไร? วันนี้มาแนะนำ 10 ทริคของการดูอย่างไร ว่าได้เวลาซักที่นอน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ทำความสะอาดที่นอนครั้งใหญ่ในทุก 6 เดือน ปกติโดยทั่วไปแล้ว ควรทำความสะอาดที่นอน และท็อปเปอร์ ทุก ๆ 6 เดือน และซักที่นอน ซักผ้าปูที่นอนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยใช้อุณหภูมิที่ 60 องศาเซลเซียส เพื่อทำลายแบคทีเรียให้สะอาด และควรนำไปตากให้โดนแสงแดด เพื่อทำการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์

2. มีคราบสิ่งสกปรกเกิดขึ้น หากทำสิ่งใดหกบนที่นอน ก็ควรที่จะทำความสะอาดที่นอนทันทีก่อนที่คราบฝังแน่น และควรใช้ผ้ารองกันเปื้อนที่นอนที่มีคุณภาพ จะช่วยลดความจำเป็นในการทำความสะอาดที่นอนและซักที่นอนของคุณและช่วยยืดอายุการใช้งานที่นอนของคุณ

3. สังเกตสิ่งสกปรกบนที่นอนมีมากน้อยแค่ไหน โดยตรวจสอบที่นอนเพื่อหาคราบต่าง ๆ บนที่นอน เช่น คราบประจำเดือน คราบปัสสาวะ ซึ่งก็เป็นตัวบ่งบอกว่าถึงเวลาที่ควรทำความสะอาดที่นอน หรือซักที่นอนโดยสามารถดำเนินการทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้ที่นอนกลับมาขาวสะอาดดังเดิม

4. เริ่มมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เมื่อที่นอนเริ่มมีสัญญาณเตือนจากการมีกลิ่น อาจเกิดจากปัญหาคราบเหงื่อ ซึ่งในแต่ละปีเหงื่อที่ออกในขณะหลับมีปริมาณมากถึง 26 แกลลอน หรือปัญหาเรื่องกลิ่นอาจจะเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ที่นอนมีกลิ่นเหม็นอับ นั่นแสดงว่าแบคทีเรียเริ่มมีการแพร่พันธุ์ และปล่อยของเสียออกมา ทำให้ที่นอนเราเหม็นอับ ดังนั้นควรรีบทำความสะอาดโดยทันที ปัญหานี้สามารถเลือกใช้บริการซักที่นอน บริการกำจัดไรฝุ่น ดูดฝุ่นที่นอนได้ หากคุณไม่สามารถทำความสะอาดที่นอน หรือซักที่นอนด้วยตัวเอง

5. การเปลี่ยนสีและเกิดคราบสีเหลือง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งอาจเกิดจากอายุที่นอนและการผุกร่อนตามธรรมชาติ สาเหตุหลักมาจากการเกิดออกซิเดชัน มีคำอธิบายว่าเป็นกระบวนการทางธรรมชาติจากแสงแดด โดยคราบเหลืองนี้ไม่เป็นอันตราย แต่อาจจะให้ที่นอนไม่น่านอนมากนัก ควรทำความสะอาดที่นอน หรือซักที่นอน หรือเลือกใช้บริการซักที่นอน บริการกำจัดไรฝุ่น ดูดฝุ่นที่นอนโดยมืออาชีพ เพื่อฟิ้นฟูสภาพที่นอนให้กลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง

6. เกิดเชื้อราเป็นจุดบนที่นอน ขจัดเชื้อรา หรือจุดดำ ๆ เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะเริ่มปล่อยสปอร์กระจายไปจุดอื่นทั่วห้อง ทำให้ทุกจุดง่ายที่จะขึ้นรา ที่ทำให้เราเป็นภูมิแพ้ เมื่อเห็นคราบเชื้อราบนที่นอน ควรรีบทำความสะอาดที่นอน ดูดฝุ่นที่นอนหรือซักที่นอน เพราะอาจส่งผลเรื้อรัง และที่นอนเกิดความเสียหาย ซึ่งหลายคนก็ไม่อยากขจัดคราบ เพราะทำไปเท่าไรก็ไม่สามารถขจัดออกได้หมด แต่จริง ๆ แล้วการเกิดเชื้อราบนที่นอนสามารถกำจัดได้ด้วยตนเอง หรือใช้บริการซักเตียง บริการกำจัดไรฝุ่น ดูดไรฝุ่น ดูดฝุ่นที่นอนจากร้านรับทำความสะอาดที่มีผู้เชี่ยวชาญงานในด้านนี้

7. อาการคันตามผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นอาการคัน ระคายผิว อาจมีอาการภูมิแพ้ ซึ่งอาการที่พบได้แก่ ผิวหนังบวมแดง คัน เป็นผื่น ลมพิษ ไปจนถึงผิวหนังอักเสบ เป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาแล้วที่คุณควรทำความสะอาดที่นอน หรือซักที่นอนอย่างเร่งด่วน ซึ่งการกำจัดไรฝุ่นควรใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด โดยการเฉพาะการบริการกำจัดไรฝุ่น ดูดฝุ่นที่นอน จะช่วยกำจัดไรฝุ่นได้อย่างเห็นผล

8. ป่วยที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส เพราะไวรัสสามารถอาศัยอยู่ในร่างกายคนได้ 48 ชั่วโมง และไวรัสก็เป็นพาหะของไข้ต่าง ๆ สามารถอาศัยอยู่นอกร่างกายของคนที่เป็นไข้ได้ 48 ชั่วโมง แสดงว่าคนอื่น ๆ สามารถรับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ถึงแม้ว่าคนที่เป็นไข้จะไม่ได้อยู่บริเวณนั้นแล้วก็ตาม

9. สิวเห่อเต็มหน้า ที่นอนหรือโดยเฉพาะหมอน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่คนชอบมองข้าม เพราะระหว่างการนอนหลับใบหน้าไปสัมผัสกับปลอกหมอนที่นาน ๆ จะซักที หรือผ้าห่มที่คุณซักเเค่ปีละ 2 ครั้ง ที่มีโอกาสเลื่อนมาปิดใบหน้าบ้างในขณะหลับ ดังนั้นมีสิวขึ้นก็เป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งให้คุณควรลุกขึ้นมาทำความสะอาดที่นอน หรือซักที่นอน

10. เกิดอาการหอบหืด หรือเกิดอาการตั้งแต่ อาการคัดจมูก คันตา คันคอ จามบ่อย มีน้ำมูกใหล ในบางรายอาจจะกำเริบเป็นระยะ สะท้อนว่าภายในที่นอนเริ่มมีฝุ่นที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดอาการโรคภูมิแพ้ ดังนั้นควรรีบทำความสะอาดที่นอน หรือซักที่นอนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการใช้บริการกำจัดไรฝุ่น ดูดฝุ่นที่นอน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะช่วยกำจัดฝุ่นต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยีที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน จึงทำให้มั่นใจและดูดไรฝุ่นได้อย่างหมดจด

เหตุผลหลักที่ควรซักที่นอน ซักฟูกที่นอน

· ขจัดเหงื่อและความชื้น ทุกครั้งที่คุณนอนบนที่นอน ร่างกายของคุณจะผลิตน้ำมันที่เกาะอยู่บนเบาะและผ้าปูที่นอน เมื่อเวลาผ่านไป มันจะสะสมและแทรกซึมเข้าไปในฟูกที่นอนของคุณ ซึ่งจะทำให้สุขอนามัยและลักษณะฟูกของคุณเสื่อมโทรมลง
· กำจัดไรฝุ่น คุณรู้หรือไม่ว่า ผิวหนังมนุษย์จะถูกผลัดเซลล์ออกมาถึง 1.5 กรัมทุกวัน โดยไรฝุ่นจะกินผิวหนังมนุษย์เป็นอาหาร ซึ่งสามารถเลี้ยงไรฝุ่นได้ถึง 1 ล้านตัว ทำให้ไรฝุ่นจะติดอยู่บนที่นอนของคุณ
· ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย นอกจากไรฝุ่นที่น่าขนลุกแล้ว ที่นอนที่เปียกและสกปรกของคุณยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราและแบคทีเรียอีกด้วย เซลล์ผิวที่ตายแล้ว เหงื่อและฝุ่นที่ติดอยู่กับฟูก และผ้าปูที่นอนกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคุณ
หากคุณเป็นผู้ที่ต้องการนอนหลับอย่างมีความสุข และมีสุขภาพที่ดี อย่าปล่อยให้ฟูกที่นอนของคุณสกปรก เพราะ 10 สัญญาณเตือนเหล่านี้ ทั้งอาการโรคภูมิแพ้ คันตา หรือกระทั่งการเกิดคราบเหลืองของที่นอน กลิ่นไม่พึงประสงค์ ล้วนเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ

เมื่อรู้แล้วว่าถึงเวลาที่ควรทำความสะอาดที่นอน หรือซักที่นอนอย่างเร่งด่วน หากคุณต้องการที่ปรึกษา หรือต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านตัวจริง ในการซักที่นอน และการกำจัดไรฝุ่น สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับบริการซักที่นอน บริการกำจัดไรฝุ่น ดูดฝุ่นที่นอน เพิ่มเติมได้ที่ Sofaboyservice เรายินดีให้คำปรึกษา พร้อมทั้งแนะนำวิธีซักที่นอน ทำความสะอาดที่นอนที่เหมาะสมกับที่นอนและบ้านของคุณ


SOFABOY ยินดีให้บริการซักที่นอน ซักพรม บริการกำจัดไรฝุ่น ดูดฝุ่นที่นอนและทำความสะอาดโซฟาผ้า
รับโปรโมชั่นพิเศษและติดตามข่าวสารได้ที่

Previous Post
Newer Post

Leave A Comment