ภัยร้ายใกล้ตัว! อาการแพ้ไรฝุ่นบนที่นอน ควรทำความสะอาดที่นอนอย่างไรให้ห่างไกลไรฝุ่น
สังเกตอาการแพ้ไรฝุ่นบนที่นอน และวิธีทำความสะอาดที่นอนให้ปราศจากไรฝุ่น
หลายคนอาจจะไม่ทันสังเกตว่าตนเองนั้นกำลังมีอาการแพ้ไรฝุ่นอยู่ แม้ว่าจะเป็นการจาม คันตา หรือคันจมูกเพียงเล็กน้อยอาการเหล่านี้แม้จะยังไม่รุนแรง แต่อาจจะเป็นสาเหตุที่สามารถนำไปสู่การเป็นโรคภูมิแพ้ได้ในที่สุด ซึ่งหนึ่งในต้นตอหลักที่มักพบว่าเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ก็คือ “ตัวไรฝุ่น” สิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋ว ที่มักอาศัยอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟูกห้องนอนที่ไม่ได้ทำความสะอาดที่นอนอย่างเหมาะสม รวมทั้งปลอกหมอน หรือแม้กระทั่งบนตัวตุ๊กตาที่นอนกอดอยู่บ่อย ๆ วันนี้เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับอาการแพ้ไรฝุ่นบนที่นอนมาบอก เพื่อให้ทุกคนได้สังเกตตนเองในเบื้องต้น รวมถึงการหลีกเลี่ยงและลดอาการแพ้ไรฝุ่นได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการดูแลทำความสะอาดที่นอนอย่างถูกต้องมาฝากกัน
รู้จัก ก่อนกำจัด “ไรฝุ่น” ภัยร้ายบนที่นอน
ไรฝุ่น หรือ ตัวไร (Mite) เป็นสัตว์ประเภทขาข้อต่อ จัดอยู่ในตระกูลเดียวกับหิด แมงมุม โดยตัวไรจะมีขนาดที่เล็กมากประมาณ 0.1-0.3 มิลลิเมตร จึงมองด้วยตาเปล่าได้ยาก ตัวไรมีหลายชนิด แต่ที่พบตามที่อยู่อาศัยจะเรียกว่า ไรฝุ่นบ้าน (House Dust Mite) จะมีลักษณะเป็นตัวสีขาวคล้ายฝุ่น อยู่ปะปนในฝุ่นบ้าน เคลื่อนไหวได้เร็ว โดยไรฝุ่นที่มักพบและสามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้มี 2 ชนิดคือ ไรฝุ่นชนิด Dermatophagoides pteronyssinus (DP) และ ไรฝุ่น Dermatophagoides farinae (DF)
ที่อยู่ของไรฝุ่น มักจะพบว่าพวกมันชอบที่จะอาศัยอยู่ในเส้นใยผ้าและในที่มืด อับชื้น โดยอาหารที่ช่วยให้พวกมันเติบโตขึ้นก็คือ เศษผิวหนังและรังแคของคนเรานั่นเอง จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมไรฝุ่นมักจะอยู่ตามห้องนอนมากที่สุด ทั้งบนฟูกที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม พรม ผ้าม่าน หรือแม้กระทั่งตุ๊กตามีขน ที่น่าตกใจไปกว่านั้นจากผลสำรวจยังพบว่า ตัวไรฝุ่นที่พบบนที่นอน มีจำนวนตั้งแต่แสนตัวไปจนถึงล้านตัวเลยทีเดียว เป็นเหตุผลที่เราควรจะดูแลทำความสะอาดที่นอน ด้วยการซักที่นอนและดูดฝุ่นที่นอนอย่างสม่ำเสมอ
ไรฝุ่น เป็นสาเหตุก่อให้เกิดอาการและโรคภูมิแพ้ได้อย่างไร?
สาเหตุการแพ้ไรฝุ่น อาจจะแพ้ได้จากทั้งตัวไรฝุ่นหรือซากของไรฝุ่นที่ตายแล้ว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้มากที่สุดก็คือ มูลของไรฝุ่น ที่หมักหมมอยู่ในเตียงที่ไม่ได้ทำความสะอาดที่นอน ซึ่งมูลไรฝุ่นเป็นสารโปรตีนที่สามารถเข้าไปกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อไรฝุ่น ด้วยการปล่อยแอนติบอดีเข้าไปกำจัดโปรตีนจากมูลไรฝุ่นที่เป็นสิ่งแปลกปลอมออกไปจากร่างกาย อันเป็นสาเหตุของอาการแพ้และการอักเสบบริเวณต่าง ๆ ของระบบทางเดินหายใจ
ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการแพ้ไรฝุ่น ที่พบมากที่สุดมักจะเกิดกับเด็กเล็ก วัยรุ่น และความเสี่ยงจากกรรมพันธุ์ รวมถึงการสัมผัสหรืออยู่ในบริเวณที่มีตัวไรฝุ่นอยู่เยอะ เช่น ห้องนอนที่ขาดการดูแลทำความสะอาดที่นอน ไม่ซักที่นอน และไม่ดูดฝุ่นที่นอนอย่างสม่ำเสมอ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน ที่สำคัญหากว่าเกิดอาการภูมิแพ้จากไรฝุ่นและไม่ทำการรักษาอย่างเหมาะสม และมีอาการติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน นั่นจะยิ่งทำให้อาการแย่ลง ส่งผลต่ออาการอักเสบเรื้อรังและลุกลามไปเป็นโรคเรื้อรังในระดับที่รุนแรงอื่น ๆ ได้อีกด้วย
สังเกตอาการ “ภูมิแพ้ไรฝุ่น” มีอะไรบ้าง
อาการแพ้ไรฝุ่น จะมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปแล้วจะสามารถสังเกตได้จากการมีอาการเหล่านี้ คือ
• อาการแพ้ไรฝุ่นเบื้องต้น– จะเริ่มมีอาการไอ จาม น้ำมูลไหล คันตา ตาบวมหรือใต้ตาคล้ำ คัดจมูก คันจมูก หากเป็นในเด็กให้สังเกตว่า เด็กจะมีอาการขยี้จมูกบ่อยครั้ง ในบางคนอาจมีอาการคันเพดานปากหรือในคอร่วมด้วย
• อาการแพ้ไรฝุ่นที่ค่อนข้างรุนแรง– อาการที่เกิดขึ้นในบางคนอาจมีระดับที่รุนแรงคือ เริ่มมีอาการหายใจมีเสียงหวีด คัดจมูกหายใจไม่สะดวก นอนไม่หลับ หายใจไม่อิ่ม หายใจหอบ มีเสมหะในลำคอ คันตา ตาแดงและมีน้ำตาไหล หรือในบางรายอาจมีอาการเจ็บ ปวดแน่นบริเวณใบหน้าร่วมด้วย รวมถึงมีอาการคัน มีผื่นบวมแดงขึ้นที่ผิวหนังด้วย
ซึ่งหากมีอาการแพ้ไรฝุ่นในระดับที่รุนแรงดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทาง เพราะอาการที่เกิดขึ้นอาจเป็นอาการแพ้ไรฝุ่นที่ลุกลามจนทำให้เกิดอาการของโรคเรื้อรังทั้งโรคหืด โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้นั่นเอง จึงเป็นเหตุผลที่เมื่อสังเกตได้ว่าตนเองเริ่มมีอาการต่าง ๆ ในเบื้องต้นแล้ว ก็ไม่ควรปล่อยไว้นาน และควรทำการรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดอาการที่รุนแรงขึ้นในอนาคต และที่สำคัญการป้องกันที่ต้นเหตุโดยการหมั่นทำความสะอาดที่นอน ด้วยการซักที่นอน ดูดฝุ่นที่นอน รวมถึงการใช้บริการซักที่นอน บริการซักเตียง และบริการกำจัดไรฝุ่นจากมืออาชีพ ก็จะสามารถช่วยยับยั้งการเกิดอาการภูมิแพ้ไรฝุ่นได้มากเลยทีเดียว
การทำความสะอาดที่นอนอย่างเหมาะสม ลดอาการแพ้ไรฝุ่นได้
เมื่อพบว่ามีอาการแพ้ไรฝุ่น นอกจากการรีบพบแพทย์เฉพาะทาง และเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยก็คือ การหมั่นดูแลทำความสะอาดที่นอน เพราะที่นอนเป็นแหล่งอาศัยชั้นเยี่ยมของไรฝุ่น ต้นตอของโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจและผิวหนัง ดังนั้นการซักที่นอน ดูดฝุ่นที่นอนอย่างสม่ำเสมออย่างถูกต้องเหมาะสม ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอาการแพ้ไรฝุ่นได้มาก
เทคนิคทำความสะอาดที่นอน กำจัดไรฝุ่น
เครื่องดูดฝุ่นช่วยทำความสะอาดที่นอนได้
สำหรับฟูกที่ทำความสะอาดได้ยาก มีวิธีในการทำความสะอาดที่นอนได้ง่าย ๆ โดยใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดฝุ่นที่นอน เครื่องดูดฝุ่น สามารถดูดเศษคราบไคล เศษผิวหนัง และฝุ่นละออกงต่าง ๆ ที่ติดอยู่บนฟูกให้ออกไปได้ โดยหากอยากให้ตัวฟูกสะอาดหมดจดมากขึ้น ให้ใช้เบคกกิ้งโซดาโรยลงไปบนฟูก หลังจากนั้นก็ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเบคกิ้งโซดาออก ซึ่งเศษคราบสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่บนฟูกก็จะออกมาพร้อมกับเบคกิ้งโซดา
ลองใช้น้ำยาทำความสะอาดกำจัดคราบ
คราบต่าง ๆ ที่สะสมอยู่บนที่นอน สามารถทำความสะอาดที่นอนให้ออกไปได้ด้วยการใช้น้ำยาทำความสะอาดเช็ดบริเวณตรงที่มีคราบเปื้อนให้ออก หรือหากว่าไม่มีน้ำยาทำความสะอาดก็สามารถใช้น้ำยาล้างจานเช็ดออกแทนได้ โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดจุ่มกับผ้าสะอาดให้พอประมาณแล้วเช็ดบริเวณที่เป็นคราบเปื้อนให้ออก หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ที่นอน หรือฟูกแห้ง โดยการนำไปผึ่งแดด หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นที่นอนตามอีกที โดยแนะนำว่าควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่นอนสูตรอ่อนโยน เพื่อป้องกันอาการแพ้บนผิวของเราจากน้ำยาทำความสะอาดที่นอน
กลิ่นอับก็สำคัญที่ต้องกำจัด
กลิ่นอับ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้น นอกจากจะบ่งบอกถึงความไม่สะอาดและจะส่งผลต่อสุขภาวะที่ไม่ดีแล้ว กลิ่นเหล่านั้นยังรบกวนบรรยากาศการนอนของคุณได้ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าที่นอนของคุณนั้นมีสิ่งสกปรก เชื้อรา และความอับชื้นอยู่ อาจเกิดมาจากผ้าปูที่นอนของคุณที่ไม่แห้งสนิท หรือมีความชื้นหลงเหลืออยู่ ทางที่ดีควรที่จะผึ่งแดดให้แห้งสนิท และหากพบว่าผ้าปูที่นอนเริ่มมีกลิ่นอับแล้วต้องรีบนำไปซักทันที และผึ่งแดดให้แห้งสนิท แล้วค่อยนำผ้าปูที่นอนมาใช้งาน
การกำจัดไรฝุ่นด้วยตนเองอย่างถูกต้อง สามารถทำได้โดยการหมั่นทำความสะอาดที่นอน ด้วยการซักที่นอนและเครื่องนอนทุกชิ้นด้วยน้ำร้อนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง รวมถึงควรดูดฝุ่นที่นอนเป็นประจำ นอกจากนี้การจัดห้องนอนให้โล่งมีของน้อยชิ้นและมีอากาศถ่ายเท ก็จะช่วยลดจำนวนของไรฝุ่นลงได้ ทั้งนี้การกำจัดไรฝุ่นด้วยตนเองอาจจะยังไม่เพียงพอ การใช้บริการซักที่นอน บริการซักเตียง และบริการกำจัดไรฝุ่นจากมืออาชีพ จะสามารถกำจัดไรฝุ่นได้ถึงต้นตอมากกว่า
ทำความสะอาดที่นอนด้วยการใช้บริการซักที่นอน บริการซักเตียง และบริการกำจัดไรฝุ่นจากมืออาชีพ
แม้จะมีดูแลทำความสะอาดที่นอน ซักที่นอน ดูดฝุ่นที่นอนด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ แต่นั่นอาจจะยังไม่เพียงพอในการกำจัดไรฝุ่น เนื่องจากไรฝุ่นไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการซักที่นอน หรือดูดฝุ่นที่นอนแบบธรรมดา ดังนั้นการเลือกใช้บริการซักที่นอน บริการซักเตียง และบริการกำจัดไรฝุ่นจากผู้เชี่ยวชาญ จะสามารถช่วยทุ่นแรง ประหยัดเวลา และกำจัดไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยอุปกรณ์เฉพาะที่สามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้าง ที่การทำความสะอาดปกติทำไม่ได้ จึงมั่นใจได้ว่าการใช้บริการกำจัดไรฝุ่น บริการซักที่นอน และบริการซักเตียงจะช่วยลดอาการแพ้ไรฝุ่นที่ต้นตอได้ดีกว่าทำความสะอาดที่นอนด้วยตัวเอง นอกจากนี้บริการทำความสะอาดที่นอนจากมืออาชีพ ยังสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพฟูกที่นอนของคุณให้กลับมาดูดีได้อีกครั้งด้วย
SOFABOY เราคือผู้เชี่ยวชาญอันดับ 1 เรื่องบริการทำความสะอาดที่นอน บริการซักเตียง บริการกำจัดไรฝุ่น ดูดฝุ่นที่นอน ทุกประเภท สำหรับที่พักอาศัยประเภทบ้าน คอนโด สำนักงาน ร้านค้า และสามารถฟื้นฟูสภาพที่นอนของคุณได้อย่างที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
สนใจติดต่อสอบถาม หรือติดตามข่าวสารและโปรโมชันพิเศษจากเราได้ที่
- โทร. 099-152-1790, 091-093-4242
- Line: @sofaboy
- Facebook : sofaboyservice
- Email: sofaboyservice@gmail.com
- Website: sofaboyservice.com